อัดอั้นมานาน! ซีดาน ร่อนจดหมายเปิดผนึกยาวเหยียดหลังลาออกจากกุนซือมาดริด
31 พฤษภาคม 2564, 17:57 น. · 417
ข่าวฟุตบอลล่าสุด ซีเนดีน ซีดาน เขียนจดหมายเปิดผนึกหลังจากที่จะไม่ได้อยู่คุม เรอัล มาดริด ต่อในซีซั่นหน้า โดยบอกว่าไม่ได้รับความไว้เนื้อเชื่อใจจากคนบางส่วนภายในสโมสร พร้อมยกย่องเหล่านักเตะ, ทีมสตาฟฟ์และพนักงานทุกคนที่อยู่สู้ร่วมกับตนอย่างเต็มที่ตลอดช่วงที่ผ่านมา แถมยังขอบคุณสาวก "ราชันชุดขาว" ด้วยที่มอบความรักให้กับตนมาโดยตลอด
ซีเนดีน ซีดาน ตำนานเพลย์เมกเกอร์ชาวฝรั่งเศส เขียนจดหมายเปิดผนึกเพื่อบอกเล่าความรู้สึกและเรื่องต่างๆ หลังจากที่ตัดสินใจไปแล้วว่าจะแยกทางกับ เรอัล มาดริด ในช่วงซัมเมอร์นี้ โดยหนึ่งในนั้นคือการบอกว่าช่วงที่ผ่านมาคนใหญ่คนโตในสโมสรไม่ได้ให้ความเชื่อมั่นในตัวตนมากเท่าที่ควร และไม่สนับสนุนตนมากเท่าไหร่นัก
หลังจากพาทีมได้แชมป์ลีก 1 สมัย, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 3 ครั้ง, ยูฟ่า ซูเปอร์คัพ 2 หน, ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ 2 รอบ และ สแปนิช ซูเปอร์คัพ 1 ครั้ง ในสมัยแรกที่กุมบังเหียน มาดริด แล้วนั้น ซีดาน ก็ได้กลับมาคุม "ราชันชุดขาว" ในปี 2019 ซึ่งรอบนี้เขาทำให้ทีมได้แชมป์ลีกกับ สแปนิช ซูเปอร์คัพ อย่างละ 1 หน แต่ในฤดูกาล 2020-21 ผลงานของ มาดริด ไม่ดีเท่าที่ควรจนต้องจบฤดูกาลแบบมือเปล่า
เรื่องดังกล่าวทำให้มีข่าวลืออย่างหนาหูมาโดยตลอดว่า ซีดาน จะโดนปลดออกจากตำแหน่ง และสุดท้ายมันก็มีการประกาศว่าอดีตยอดมิดฟิลด์คนดังจะไม่ได้อยู่คุมทีมต่อไปในซีซั่นหน้าแล้วจริงๆ แม้ว่าที่จริงแล้วจะยังมีสัญญากับทีมจนถึงช่วงซัมเมอร์ ปีหน้าก็ตาม ซึ่งล่าสุด ซีดาน ก็เขียนจดหมายเปิดผนึกแล้วส่งไปให้ อาส ได้นำเสนอเรื่องราวในใจของเขา
จดหมายของ ซีดาน มีใจความว่า "ถึงแฟนบอล เรอัล มาดริด ที่รัก เป็นเวลามากกว่า 20 ปีแล้วที่พวกคุณมอบความรักให้กับผม พวกคุณทำอย่างนั้นตั้งแต่วันแรกที่ผมมาถึงกรุงมาดริดเป็นวันแรกและนับตั้งแต่ที่ผมได้สวมเสื้อสีขาว ผมรู้สึกอยู่เสมอว่าระหว่างเรามันมีบางอย่างที่พิเศษ ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากที่ได้เป็นทั้งนักเตะและโค้ชให้กับสโมสรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล แต่เหนือสิ่งอื่นใดเลยนั้นผมก็เป็นเพียงแฟน มาดริด คนหนึ่ง ด้วยเหตุนี้ผมเลยอยากจะเขียนจดหมายฉบับนี้เพื่อบอกลาพวกคุณและอธิบายถึงการที่ผมตัดสินใจบอกลาตำแหน่งโค้ชของสโมสร"
"ตอนเดือนมีนาคม ปี 2019 ผมตอบรับข้อเสนอที่จะกลับมาคุม เรอัล มาดริด หลังจากพักไป 8 เดือนก็เพราะประธาน ฟลอเรนติโน่ เปเรซ มาขอร้องผม แต่อีกสาเหตุหนึ่งที่ผมตอบรับข้อเสนอนี้ก็เพราะแฟนบอลอย่างพวกคุณทุกคนขอร้องให้ผมกลับมารับงานนี้กันทุกวัน ตอนที่ผมเจอพวกคุณบนท้องถนนผมก็สัมผัสได้ถึงแรงสนับสนุนและความปรารถนาที่พวกคุณอยากเห็นผมกลับมาอยู่กับทีมอีกครั้ง"
"ผมเองก็มีมุมมองแบบเดียวกันในเรื่องคุณค่าของ เรอัล มาดริด สโมสรแห่งนี้เป็นของสมาชิกทุกคน เป็นของแฟนบอลทุกคน และเป็นของคนทั่วโลก ผมพยายามที่จะทำทุกอย่างตามหลักการของคุณค่าเหล่านั้น รวมถึงพยายามที่จะเป็นแบบอย่างที่ดี การได้อยู่กับ มาดริด เป็นเวลา 20 ปีมันถือเป็นสิ่งที่งดงามที่สุดเท่าที่เคยเกิดขึ้นกับชีวิตของผม และผมรู้ดีว่าผมเป็นหนี้บุญคุณกับการที่ ฟลอเรนติโน่ เปเรซ หนุนหลังผมเมื่อปี 2001 เขาต่อสู้อย่างหนักเพื่อให้ผมได้มาอยู่กับทีม เพื่อเอาผมมาเล่นกับที่นี่ในตอนที่บางคนคัดค้านกับเรื่องนั้น ที่ผมเคยบอกว่าผมจะรู้สึกเป็นหนี้บุญคุณประธานไปชั่วชีวิตนั่นผมพูดจากใจจริง ผมจะคิดแบบนั้นอยู่เสมอ"
"ตอนนี้ผมตัดสินใจที่จะแยกทางกับทีม และผมอยากจะอธิบายสาเหตุอย่างเหมาะสม ผมจะบอกลาทีมก็จริง แต่มันไม่ใช่การตัดสินใจที่กะทันหัน*หรือเป็นเพราะผมเบื่อที่จะทำการคุมทีม ตอนเดือนพฤษภาคม ปี 2018 ผมบอกลาทีมก็เพราะผมรู้สึกว่าทีมต้องการแนวทางการทำทีมแบบใหม่เพื่อที่จะยังอยู่ในระดับสูงสุดต่อไปได้หลังจากที่เราเก็บชัยชนะได้มากมายก่ายกองรวมถึงได้แชมป์หลายรายการในช่วง 2 ปีครึ่งที่ผมอยู่คุมทีม"
"ในทางกลับกัน ตอนนี้ผมกำลังจะบอกลาที่นี่ก็เพราะผมรู้สึกว่าสโมสรไม่เชื่อมั่นในตัวผมอีกต่อไปแล้วทั้งที่ผมต้องการให้พวกเขาเชื่อมั่นในตัวผม รวมถึงไม่รู้สึกว่าได้รับการสนับสนุนให้ผมได้มีโอกาสสร้างบางอย่างในระยะกลางหรือระยะยาวอีกต่อไปเช่นกัน ผมเข้าใจวิถีของฟุตบอลเป้นอย่างดี และรู้ถึงความต้องการของสโมสรระดับ เรอัล มาดริด ดี ผมรู้ว่าเมื่อคุณไม่ชนะแล้วนั้นคุณก็ต้องแยกทางกับทีม แต่ความคิดแบบนั้นมันทำให้สิ่งที่สำคัญมากๆ ถูกมองข้ามไป ทุกอย่างที่ผมสร้างมาแบบวันต่อวันถูกมองข้ามอย่างสิ้นเชิง ความสัมพันธ์ระหว่างผมกับนักเตะ รวมถึงคน 150 คนที่ทำงานกับทีมกลับไม่ได้รับความสนใจ"
"แน่นอน ผมมีนิสัยที่ต้องการชนะมาตั้งแต่เกิด ที่ผมมาอยู่กับทีมก็เพื่อที่จะต้องการได้แชมป์ แต่สิ่งที่มีความสำคัญมากกว่าเรื่องนั้นก็คือเรื่องของผู้คนต่างๆ, ความรู้สึกของพวกเขา, ชีวิตของพวกเขา ผมมีความรู้สึกว่าหลายฝ่ายไม่ให้ความสนใจในเรื่องเหล่านี้ พวกเขาไม่ยอมเข้าใจว่าสิ่งเหล่านี้เองก็เป็นปัจจัยที่ทำให้สโมสรอันยอดเยี่ยมยังเดินหน้าต่อไปได้ บางครั้งผมถึงขั้นโดนด่าจากแนวคิดแบบนี้ของผมด้วยซ้ำ"
"ผมอยากให้มันมีการเคารพต่อความสำเร็จที่เราทำได้ร่วมกัน ผมอยากให้ความสัมพันธ์ของผมกับสโมสรและกับประธานตลอดช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมามันต่างไปจากของกุนซือคนอื่นๆ ผมไม่ได้เรียกร้องขอสิทธิพิเศษที่มากมายอะไรเลย ผมแค่อยากให้มีการรำลึกถึงปัจจัยที่สำคัญมากกว่านี้อีกสักนิดก็เท่านั้นเอง"
"ทุกวันนี้กุนซือของทีมใหญ่ๆ มักจะอยู่กับทีมได้เพียงแค่ 2 ฤดูกาลเท่านั้น อย่างดีก็คือนานกว่านั้นอีกสักนิดหน่อย ซึ่งการที่จะให้คนเป็นกุนซือได้อยู่กับทีมนานกว่าค่าเฉลี่ยปกติน่ะมันก็จำเป็นต้องมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน นั่นเป็นปัจจัยที่สำคัญกว่าเรื่องเงิน, สำคัญกว่าเรื่องชื่อเสียง และสำคัญกว่าอะไรทั้งนั้น มันต้องมีการทะนุบำรุงความสัมพันธ์ให้ออกมาดี"
"ด้วยเหตุนี้ ผมเลยรู้สึกเจ็บปวดอย่างมากเวลาที่อ่านเจอข่าวว่าผมจะโดนไล่ออกหากผมไม่ชนะเกมหน้าในตอนที่ผมเพิ่งพาทีมแพ้มาหมาดๆ มันทำให้ทั้งผมและทุกคนในทีมเจ็บปวดอย่างมากเพราะการตั้งใจปล่อยเรื่องเหล่านี้ไปให้สื่อมวลชนมันส่งผลให้เกิดผลกระทบในแง่ลบกับทีม มันทำให้เกิดความกังขาและความเข้าใจผิดกัน โชคดีที่ผมมีเหล่าลูกทีมที่ยอดเยี่ยมที่อยู่กับผมจนถึงท้ายที่สุด"
"ตอนที่สถานการณ์มันดูเลวร้ายน่ะพวกเขาช่วยผมเอาไว้ได้จากการพาทีมเก็บชัยชนะในเกมที่ยอดเยี่ยมหลายต่อหลายนัด พวกเขาทำอย่างนั้นเพราะพวกเขาเชื่อมั่นในตัวผม และพวกเขาก็รู้ดีว่าผมก็เชื่อมั่นในตัวพวกเขาเช่นกัน แน่นอนว่าผมไม่ใช่โค้ชที่เก่งที่สุดในโลก แต่ผมก็สามารถมอบความแข็งแกร่งและความมั่นใจตามที่พวกเขาต้องการสำหรับการทำงานของพวกเขาเองได้ ไม่ว่าคนเหล่านั้นจะเป็นนักเตะ, ทีมสตาฟฟ์ หรือพนักงานด้านอื่นๆ ก็ตาม"
"ตลอดช่วง 20 ปีที่อยู่กับ มาดริด ผมได้เรียนรู้ว่าแฟนบอลอย่างพวกคุณต้องการชัยชนะอย่างมาก แต่สิ่งที่สำคัญกว่าชัยชนะก็คือพวกคุณอยากให้เราทำงานกันให้เต็มที่ ไม่ว่าจะทั้งกุนซือ, สตาฟฟ์ พนักงาน และบรรดานักเตะ ซึ่งผมรับประกันกับพวกคุณได้เลยว่าเราทุ่มเทให้กับสโมสรแห่งนี้ 100 เปอร์เซ็นต์เต็ม"
"ผมอยากถือโอกาสนี้ส่งข้อความไปยังเหล่านักข่าวด้วย ผมออกงานแถลงข่าวมาหลายร้อยครั้งแล้ว แต่เรากลับมีโอกาสได้คุยเรื่องฟุตบอลกันจริงๆ น้อยมาก แต่ผมก็รู้ดีว่าพวกคุณเองก็รักฟุตบอล กีฬาชนิดนี้ทำให้พวกเราได้มาอยู่ด้วยกัน อย่างไรก็ตาม ต้องขอบอกก่อนว่าสิ่งที่ผมกำลังจะพูดต่อไปนี้มันไม่ใช่เพราะผมอยากจะตำหนิหรือสั่งสอนพวกคุณหรอกนะ แต่ผมก็ไม่อยากให้พวกคุณเอาแต่ถามถึงเรื่องที่มันไม่ดี เราอาจจะคุยเรื่องเกี่ยวกับเกมฟุตบอลกันมากกว่านี้ก็ได้ หรือที่สำคัญยิ่งกว่านั้นคือการคุยเกี่ยวกับนักเตะให้มากกว่านี้ก็ได้ นักฟุตบอลคือคนที่สำคัญมากที่สุดของกีฬานี้อยู่เสมอ อย่าลืมสิ่งที่สำคัญเกี่ยวกับฟุตบอลกันเลย มาดูแลมันกันดีกว่า"
"ถึงแฟนบอล มาดริด ผมจะเป็นหนึ่งเดียวกับพวกคุณอยู่เสมอ ฮาล่า มาดริด! ซีเนดีน ซีดาน"